ชนชั้นกลางแบบ Walter Mitty
.jpg)
ในปัจจุบันเหตุการณ์บ้านเมืองเรามีความตึงเครียดขึ้นค่อนข้างจะสูงเลยทีเดียว และล่าสุดก็มีการประกาศว่าจะทำการปิดกรุงเทพฯกันเลยนะครับ ดังนั้นหากท่านใดที่ว่างไม่ได้ไปทำงานเพราะเหตุปิดกรุงเทพฯล่ะก็ผมก็อยากจะแนะนำภาพยนต์ที่น่าสนใจในสุดสัปดาห์นี้นะครับ นั่นก็คือเรื่อง "The Secret Life Of Walter Mitty " หรือ "ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้"นั่นเองครับ
ซึ่งในบทความนี้ผมจะไม่สปอยให้ทุกท่านเสียอารมณ์นะครับ ทุกท่านต้องไปหาดูกันเอง แต่สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอประเด็นสำคัญที่ผมจับได้จากภาพยนต์เรื่องนี้คือ วิถีชีวิตของคนชนชั้นกลางสมัยใหม่ครับ
ภาพยนต์เรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตของชายวัยทำงานนาม "วอลเตอร์ มิตตี้" ซึ่งชีวิตเขาสุดแสนจะธรรมดาอย่างยิ่ง ก็คล้ายๆกับชีวิตของมนุษย์เงินเดือนทั่วไปนั้นเองครับ ที่วันวันหนึ่งเขาไม่ได้ทำสิ่งอื่นใดนอกจากงานในห้องเก็บฟิล์มมืดๆ ชีวิตที่สุดแสนจะทำธรรมดานี้เองทำให้เขาได้สูญเสียความต้องการในวัยเด็ก ได้สูญเสียความสนุกในกิจกรรมที่เขาเคยทำในอดีต และที่สำคัญเขาดันกลายเป็นคนช่างฝันกลางวันไปเสียด้วย คงชักจะเหมือนชีวิตของใครหลายคนแล้วใช่มั้ยครับ
และสิ่งสำคัญในภาพยนต์เรื่องนี้ก็คือการที่นายมิตตี้คนนี้ต้องออกไปผจญภัยต่างๆ ตั้งแต่กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ ไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งจัดเริ่มต้นก็มาจากการทำงานนั่นเองครับ เขาได้ออกตามหาชายคนหนึ่งที่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมงานเขาที่ทำงานร่วมกันมากว่า16ปี เพราะงานที่มีปัญหา แต่ว่าเขาทั้งคู่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนนะครับ
และเมื่องานที่นายมิตตี้ต้องการจะทำได้สำเร็จลง สิ่งที่เขาได้กลับมาไม่ใช่งานแต่กลับเป็นความรู้สึกใหม่ที่ได้ปลุกเขาออกจาก"โลกของมิตตี้" ออกจากโลกที่ซ้ำซากจำเจ แล้วมันทำให้เขาเลิกที่จะฝันกลางวันอีกต่อไป
จากที่ผมได้เล่าไปข้างไปต้นนั้นผมคิดว่าภาพยนต์เรื่องนี้ได้ให้บางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งกว่าจะบอกว่าเป็นภาพยนต์ธรรมดาๆ แต่เป็นภาพยนต์ธรรมดาที่ได้ให้มุมมองแง่คิดชีวิตใหม่ๆผ่านตัวละคนที่มีชีวิตสุดแสนธรรมดาแล้วต้องมาเจอโลกแล้วใช้ชีวิตอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูกันเลย และภาพยนต์เรื่องนี้ยังได้สะท้อนภาพของชนชั้นกลางสมัยใหม่ที่มีชีวิตอยู่กับงาน และขาดสีสัน จนบางครั้งพวกเขาต้องออกมาทำอะไรบางสิ่งบางอย่างเพื่อยืนยันตัวตนว่าเขายังมีอยู่ ผมคิดว่าสถานการณ์การเมืองในทุกวันนี้ก็เช่นกัน มีการชุมนุมที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของกลุ่มคนชนชั้นกลางที่ปกติไม่ได้สนใจการเมืองมารวมกลุ่มกันเพื่อเป้าหมายทางเมือง มันก็เหมือนกับการออกเดินทางของนายมิตตี้นั่นเอง ซึ่งในระหว่างทางเขาอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง แน่นอนครับเมื่อท้ายสุดแล้วเขาจะรู้ตัว
สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะฝากภาพยนต์เรื่อง "The Secret Life Of Walter Mitty" ไว้ในอ้อมอกน้อยๆของท่านผู้อ่านนะครับ เผื่อไว้หาเวลาว่างๆในวันหยุดสุดสัปดาห์หน้าดูกันนะครับ บางทีท่านอาจจะเห็นมุมมองของเรื่องนี้ต่างจากผมก็เป็นได้ครับ
ลุงม้วน
แสดงความคิดเห็น